วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หลักความสุข ๙ ประการที่ทำได้ไม่ยาก

๑. จงมีชีวิตอยู่ด้วยจิตแห่งความรัก รักโดยไม่หวังผล แล้วคุณจะไม่ต้องพบกับ คำว่า ความผิดหวัง ความแค้น ความเสียใจ อย่างที่ผ่านมา ๒. จงมีชีวิต อยู่ด้วยการให้อภัย แล้วคุณจะพบว่าคุณมีจิตใจที่แจ่มใสตลอดเวลา ไม่ปวดร้าวกับอดีตใดๆ ๓. จงมีชีวิตอยู่ด้วยการรู้จักตนเองมากกว่ารู้จักผู้อื่น แล้วคุณจะพบว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแต่แก้ไขด้วยตัวเราทั้งสิ้น ๔. จงมีชีวิตอยู่ด้วยการอยู่อย่างพอเพียง แล้วคุณจะพบว่าคุณไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเกินความจำเป็น ด้วยความอยาก และความโลภ ๕. จงมีชีวิตอยู่กับความจริง แล้วคุณจะพบว่าจิตของคุณได้รับการปล่อยวาง อย่างแท้จริง โดยไม่คาดหวังกับสิ่งใดจนเกินไป ๖. จงมีชีวิตอยู่อย่างผู้ให้มากกว่าการเป็นผู้รับ แล้วคุณจะพบกับความสุขลึกๆ ที่เป็นยาอายุวัฒนะจากการให้นั่นเอง ๗. จงมีชีวิตอยู่อย่างมีศีล สมาธิ ปัญญา แล้วคุณจะพบกับคุณค่าของชีวิต ที่จะมีแต่คำว่า สะอาด สว่าง สงบ ๘. จงมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน อดีตคือประสบการณ์ อนาคตยังมาไม่ถึง ฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตจะดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา อย่างเห็นได้ชัด ๙. จงมีชีวิตอยู่ด้วยการสะสมความดีและบุญกุศล ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตของคุณมีตัวช่วยอยู่ตลอดเวลา คุณจะแคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งปวง เพราะผลบุญจะลงมาหล่อเลี้ยงและรักษาบุคคลนั้น ให้มีความสุขความเจริญสืบต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความสบาย vs ความสุข

กลับมาบ้านคราวนี้ สงเกตุตัวเองและเมืองเชียงใหม่ ที่หมุนเร็วเข้าไปทุกวี่วัน
นั่นหมายถึงการอพยพย้ายถิ่น แบบกึ่งถาวรและถาวร ของคนจากต่างถิ่น
ไม่อยากคิดว่าเมื่ออีกสามปีข้างหน้า ที่ทุกถิ่นฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราไปมาหาสู่กันได้เหมือนไปต่างจังหวัด
พลวัตรดังกล่าว คงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตอีกมาก
คนเมือง มาพร้อมกับความติดสบายแบบทุนนิยม ใช้เงินซื้อความสะดวก
อย่างนึงที่เห็นคือเรื่องง่ายๆ อย่างอาชีพ แม่บ้าน
เราติดสบายจนเคยตัวจริงๆ ใช้เงินซื้อเวลา และแรงกายที่ต้องปัดกวาดเช็ดถู
อาชีพนี้ ในเวลานี้ เงินดีไม่ใช่น้อย 300-500 บาท ขึ้นกับขนาดของบ้าน
เอาว่ะ ยอมแกหน่อยเพื่อให้ได้พักผ่อน
นั่งชมนกชมไม้อยู่สักพัก ป้าแกก้อ cross sales ว่าต้นไม้ยาวแล้วนะคุณ
ตัดหน่อยมั้ย คิดไม่แพง 300บาท
อืม นี่มันอะไรกันเนี่ยะ!
เรากลับคิดว่า อะไรๆเด่วนี้ นิดหน่อยก้อกลายเป็นค่าแรงไปหมดและ
อย่ากระนั้นเลย จริงดังคำป้าบอก ต้นไม้ยาวแล้ว
งั้น เราไปซื้อกรรไกรตัดหญ้าดีกว่า
มาเล็มกิ่งไม้ ตัดหญ้ายาวๆ ให้ดูดี
เอามือหยิบหญ้าแห้ง เท้าเหยียบดินดูบ้าง ก้อเป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง
ที่การพักผ่อนให้ได้เช่นกัน

และชดเชยค่าตัดหญ้า 300บาท ด้วยกาแฟรสดี และมื้อคำอร่อยๆเป็นการทดแทน ท่าจะดีไม่น้อยฃ

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความสุขรอบตัว

ไม่ได้มาสวนรถไฟ นานระดับนึง กลับมาคราวนี้ กึ่งงานกึ่งพักผ่อน งาน love for the blind ดนตรีในสวน
ขี่จักรยาน ปูเสื่อนอนเล่น เดินกินหมูปิ้ง ยามบ่าย ความสุขและรอยยิ้ม ล้อมรอบตัวเรา กับสีเขียวของต้นไม้ มันย้อมจิตใจอันเร่งเรเา ให้กลับมาใน beat ปกติอีกครั้ง
เวลาที่เท่ากันของแต่ละคน กับความสุขที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับใคร จะเลือกมีความสุขอย่างไร