วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความสบาย vs ความสุข

กลับมาบ้านคราวนี้ สงเกตุตัวเองและเมืองเชียงใหม่ ที่หมุนเร็วเข้าไปทุกวี่วัน
นั่นหมายถึงการอพยพย้ายถิ่น แบบกึ่งถาวรและถาวร ของคนจากต่างถิ่น
ไม่อยากคิดว่าเมื่ออีกสามปีข้างหน้า ที่ทุกถิ่นฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราไปมาหาสู่กันได้เหมือนไปต่างจังหวัด
พลวัตรดังกล่าว คงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตอีกมาก
คนเมือง มาพร้อมกับความติดสบายแบบทุนนิยม ใช้เงินซื้อความสะดวก
อย่างนึงที่เห็นคือเรื่องง่ายๆ อย่างอาชีพ แม่บ้าน
เราติดสบายจนเคยตัวจริงๆ ใช้เงินซื้อเวลา และแรงกายที่ต้องปัดกวาดเช็ดถู
อาชีพนี้ ในเวลานี้ เงินดีไม่ใช่น้อย 300-500 บาท ขึ้นกับขนาดของบ้าน
เอาว่ะ ยอมแกหน่อยเพื่อให้ได้พักผ่อน
นั่งชมนกชมไม้อยู่สักพัก ป้าแกก้อ cross sales ว่าต้นไม้ยาวแล้วนะคุณ
ตัดหน่อยมั้ย คิดไม่แพง 300บาท
อืม นี่มันอะไรกันเนี่ยะ!
เรากลับคิดว่า อะไรๆเด่วนี้ นิดหน่อยก้อกลายเป็นค่าแรงไปหมดและ
อย่ากระนั้นเลย จริงดังคำป้าบอก ต้นไม้ยาวแล้ว
งั้น เราไปซื้อกรรไกรตัดหญ้าดีกว่า
มาเล็มกิ่งไม้ ตัดหญ้ายาวๆ ให้ดูดี
เอามือหยิบหญ้าแห้ง เท้าเหยียบดินดูบ้าง ก้อเป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง
ที่การพักผ่อนให้ได้เช่นกัน

และชดเชยค่าตัดหญ้า 300บาท ด้วยกาแฟรสดี และมื้อคำอร่อยๆเป็นการทดแทน ท่าจะดีไม่น้อยฃ

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความสุขรอบตัว

ไม่ได้มาสวนรถไฟ นานระดับนึง กลับมาคราวนี้ กึ่งงานกึ่งพักผ่อน งาน love for the blind ดนตรีในสวน
ขี่จักรยาน ปูเสื่อนอนเล่น เดินกินหมูปิ้ง ยามบ่าย ความสุขและรอยยิ้ม ล้อมรอบตัวเรา กับสีเขียวของต้นไม้ มันย้อมจิตใจอันเร่งเรเา ให้กลับมาใน beat ปกติอีกครั้ง
เวลาที่เท่ากันของแต่ละคน กับความสุขที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับใคร จะเลือกมีความสุขอย่างไร